กองทหารนางบำเรอแห่งโสมแดง 3 มกราคม 2020 – Posted in: People & Places

ครั้งหนึ่ง รัฐบาลเกาหลีเหนือเคยออกมาประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่า ประเทศของตนห้ามให้มีการขายบริการทางเพศอย่างเด็ดขาด! แต่รัฐบาลกลับสร้างกองทหารหญิงซึ่งทำหน้าที่เอ็นเตอร์เทนเพศชายตามคำสั่งของกองทัพ และไม่ว่าจะขมขื่นสักเพียงใด พวกเธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธหรือเลือกเส้นทางชีวิตของตนเอง

การกดขี่ ข่มเหง จำกัดอิสรภาพของมนุษย์น่าจะเป็นอาชญากรรมอันสูงสุดที่มนุษย์พึงหยิบยื่นให้แก่กันและกัน แต่นั่นเป็นข้อยกเว้นสำหรับประเทศเกาหลีเหนือที่ยังคงปกครองด้วยระบอบเผด็จการ

image cr. : kimdunghn.wordpress.com

พอล ฟิชเชอร์ โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์และผู้เขียนหนังสือเรื่อง “A Kim Jong ILL Production” ซึ่งสำนักพิมพ์สันสกฤตนำมาแปลเป็นภาคภาษาไทยภายใต้ชื่อ “ผู้กำกับ คิม จองอิล” ได้ตีแผ่เรื่องราวการลักพาตัวกระฉ่อนโลกในยุค 1970’s ซึ่งสะท้อนให้เห็นเส้นทางขึ้นสู่อำนาจของอดีตผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ คิม จองอิล (บิดาของคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน) ที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์และเพทุบายต่าง ๆ และหนึ่งในเครื่องมือของเขาคือหญิงสาวที่จัดตั้งขึ้นเป็นหน่วยพิเศษเพื่อเอ็นเตอร์เทนทหารระดับผู้นำทัพและบุคคลระดับสูงในประเทศเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ

image cr. : www.rebelcircus.com

เพราะความลับไม่มีในโลก…ความลับของอดีตผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือจึงถูกถ่ายทอดออกมาจากปากคนใกล้ตัวผู้เคยร่วมอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ อย่าง “ฮวัง จังย็อบ” อดีตนักการเมืองสังกัดพรรคแรงงานเกาหลีเหนือซึ่งเสียชีวิตในปี พ.ศ.2553 ในวัย 87 ปี เขาเล่าว่างานปาร์ตี้ประจำสัปดาห์ของคิม จองอิล ซึ่งตามปกติจะมีขึ้นทุกวันพุธหรือวันศุกร์ เป็นที่ร่ำลือกันในแวดวงผู้ทรงอำนาจในเปียงยางว่ามีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อนโยบายของรัฐ

ปาร์ตี้จะเริ่มตอนสองทุ่มไปจนถึงเกือบสว่างในวันรุ่งขึ้น สถานที่จัดงานมีชื่อเรียกที่เป็นอันรู้กันว่า “บ้านปลา” เพราะในห้องเต้นรำบนชั้นสองซึ่งอยู่ในอาคารหลังนี้มีอะควาเรี่ยมขนาดใหญ่ มีความสูงจากพื้นจรดเพดานถึง 25 ฟุต ภายในเลี้ยงปลาจากทะเลลึก

เหล่าผู้นำระดับสูงของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นแขกระดับ V.V.I.P. รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญมาร่วมงานซึ่งมีการกิน การดื่มกันอย่างไม่อั้น และเมื่อคิม จองอิล ปรากฏตัวขึ้นแขกทุกคนจะต้องลุกขึ้นปรบมือจนกว่าเขาจะนั่งลงตรงที่นั่งประจำตรงหัวโต๊ะในตำแหน่งที่ใกล้เวทีที่สุด

image cr. : dek-d.com

จากข้อความตอนหนึ่งในหนังสือเรื่อง “ผู้กำกับ คิม จองอิล” ได้บอกเล่าถึงบรรยากาศในงานปาร์ตี้ไว้ว่า

“หลังทานอาหารเสร็จ แขกจะเล่นมาห์จองหรือรูเล็ตพร้อมกับมีหญิงสาวมาให้ความสำราญ หญิงสาวของแผนกหฤหรรษ์เป็นแรงดึงดูดสำคัญอย่างหนึ่งในงานปาร์ตี้ของจองอิล สมาชิกของแผนกนี้เป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดในเกาหลีเหนือ ท่านผู้นำอันเป็นที่รักเลือกมาเป็นรายบุคคล ทุกคนจะเชื่อฟังและมีจริตกิริยางดงาม ด้วยเหตุที่แผนกนี้สังกัดกองทัพอย่างเป็นทางการ หญิงสาวทุกคนจึงได้รับยศร้อยโทประจำกรมองครักษ์ และสังกัดกลุ่มความสำราญ”

“กลุ่มความสำราญ” ที่ว่านี้ ยังแบ่งย่อยออกเป็น 3 กลุ่มคือ “กลุ่มร้องรำทำเพลง” ทำหน้าที่ขับกล่อมให้ความบันเทิงกับแขก “กลุ่มความสุข” ให้บริการนวด และ “กลุ่มพึงพอใจ” เป็นกลุ่มที่ให้บริการทางเพศ ซึ่งตัวคิม จองอิลจะไม่แตะต้องหญิงสาวเหล่านี้ในงานปาร์ตี้ แต่จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของพรรคอยู่ใกล้ตัวของเขาตลอดเวลา คอยจดคำสั่งต่าง ๆ อะไรก็ตามที่เขาพูดในงานปาร์ตี้จะกลายเป็นคำสั่งที่ถูกเผยแพร่ไปยังสมาชิกของพรรคในเวลาต่อมา

image cr. : news.okezone.com

“ฮวัง จังย็อบ” เล่าต่อไปอีกว่าบางครั้งปาร์ตี้ก็กลายเป็นสิ่งที่บ้าบอเอามาก ๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งคิม จองอิล สั่งให้นักเต้นกลุ่มเล็กๆ ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดและเริ่มเต้นรำ จากนั้นก็สั่งให้สมาชิกโปลิสบิวโรออกไปเต้นรำด้วยโดยมีคำสั่ง “ห้ามแตะต้อง” หญิงสาวเหล่านั้นเด็ดขาด “ใครแตะเป็นโจร” ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในกุศโลบายที่เขาใช้ในการดูคน อ่านคน ปั่นหัวคนและสร้างบริวารให้มีความรู้สึกจงรักภักดีและแน่นอนว่าเวลาเมาคนเราย่อมเผยตัวตนอันแท้จริง ซึ่งคิม จองอิลก็ได้กำความลับของเหล่าผู้นำระดับสูงในหน่วยงานต่าง ๆ เหล่านั้นไว้ด้วยเช่นกัน

แต่อนิจจาหญิงสาวเหล่านั้นมาจากไหน

“สาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อย ถูกคัดสรรมาจากโรงเรียนทั่วประเทศ รู้จักกันดีในชื่อ “ดีพึมโจ” หรือแผนกหฤหรรษ์ นำมาฝึกกิริยามารยาทและเทคนิคทางเพศ”

image cr : collapsechina.blogspot.com

ในหญิงสาวทั้ง 3 กลุ่มนี้ เฉพาะ “กลุ่มพึงพอใจ” (Manjoksho) ก็มีสมาชิกประมาณ 2,000 คน อายุเฉลี่ย 14-20 ปี และมีแต่สาวพรหมจรรย์เท่านั้นที่ได้รับการการคัดเลือกให้เข้ามาเข้าฝึกการรับใช้เป็นเวลา 20 เดือน พวกเธอจะต้องรู้จักวิธีการปรนเปรอเอาใจเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูง และไม่ว่าจะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร พ่อแม่ใหญ่โตมาจากไหน หากได้รับเชิญให้เข้ากลุ่ม Manjoksho แล้วพวกเธอไม่สามารถจะปฏิเสธได้ นอกจากการหนีออกนอกประเทศสถานเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่ตัวเธอจะต้องถูกลงโทษ พ่อแม่ก็ยังจะถูกจับมาลงโทษด้วย เพราะกฎหมายของเกาหลีเหนือระบุไว้ว่าใครทำผิดจะมีการลงโทษถึง “สามชั่วโคตร” นั่นเอง

image cr. : www.express.co.uk

image cr. : www.baaz.com

การจากไปของคิม จองอิล อดีตผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือซึ่งถึงแก่อสัญกรรมไปในปี พ.ศ.2554 ได้ปลดปล่อยกองทัพร้อยโทหญิง แผนกหฤหรรษ์ให้กลับบ้านไปแล้ว แต่ในปี พ.ศ.2558 ผู้นำสูงสุดของเกาหลีคนปัจจุบัน คิม จองอึน กลับไปกวาดต้อนหญิงสาววัยกำดัดมาจากชนบทเข้ามาประจำการในฮาเร็มส่วนตัว และตั้งชื่อหญิงสาวกลุ่มนี้ว่า “Pleasure Squad” ซึ่งล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2018 คนทั่วโลกได้เห็นภาพกองเชียร์สาว ๆ จากเกาหลีเหนือถึง 229 ชีวิต ในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ภายใต้ชื่อ “กองทัพแห่งความงดงาม” ซึ่งเรียกเสียงเชียร์ได้อย่างล้นหลามด้วยความกระตือรือร้น ความพร้อมเพรียง ความสดใสร่าเริงของพวกเธอ

แต่จากปากคำของ “คิม ฮยองซู” ผู้แปรพักตร์วัย 54 ปีที่เคยสังกัดแผนกหฤหรรษ์เมื่อครั้งที่คิม จองอิล ยังมีชีวิตอยู่ ได้เปิดเผยข้อมูลว่าสาวงามเหล่านี้ก็คือทหารบำเรอทางเพศที่แวดล้อมผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน เธอกล่าวว่ามันเป็น “เสน่ห์อันน่ารังเกียจ” ที่เกาหลีเหนือใช้เบี่ยงเบนความกังวลในเรื่องอาวุธนิวเคลียร์

ในขณะที่เกาหลีเหนือพยายามบอกกับชาวโลกว่าประเทศของตนห้ามให้มีการค้าประเวณี แต่ไม่ได้หมายความว่าการกดขี่สตรีเพศจะไม่มี ตรงกันข้ามพวกเธอกลับถูกบังคับขืนใจให้บริการทางเพศตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา โดยมีคำว่าตำแหน่งเป็นเครื่องบังคับ และกองทัพนางบำเรอเหล่านี้ไม่มีสิทธิเสรีภาพในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง นอกเสียจากต้องหนีนอกประเทศ และถ้าพวกเธอหนีไปไม่รอด ก็คงมีแต่ตาย กับตาย สถานเดียว