ในบรรดา “นิทาน” อันเป็นที่กล่าวขานและรู้จักกันทั่วโลกนอกจากนิทานอีสป ซึ่งเป็นชาวกรีกที่ชีวิตอยู่ในช่วง 600 ปี ก่อนคริสตกาล เป็นผู้เล่าและรวบรวม โดยมักจะมีคติสอนใจปิดท้ายเมื่อเรื่องเล่านั้นๆ จบลงแล้ว ก็มี“นิทานกริมม์” อีกชื่อหนึ่งที่กลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน
นิทานอีสปนั้น ส่วนใหญ่จะมีรูปแบบออกไปในทางที่นักคติชนวิทยาจัดกลุ่มให้เป็น “นิทานสัตว์” กล่าวคือ มักเป็นเรื่องที่มีสัตว์เป็นตัวละครสำคัญ ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในเนื้อหาของเรื่องที่เล่าด้วย สัตว์เหล่านี้จะมีความคิด พฤติกรรม และคุณสมบัติเช่นเดียวกับมนุษย์ธรรมดา คือมีทั้งความเฉลียวฉลาด ความโง่เขลา ความดี ความชั่ว ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ คุณลักษณะของนิทานสัตว์จึงมักต้องเน้นในจุดประสงค์เพื่อการสอนศีลธรรม และจริยธรรมอยู่สูง
หากแต่ “นิทานกริมม์” ไม่ได้เป็นเช่นนั้น นิทานกริมม์ ถูกเรียกมาแต่ต้นว่าเป็น “เทพนิยาย” หรือ Fairy tales นิทานกริมม์ ส่วนใหญ่จะมีลักษณะออกมาในแนวทางของเทพนิยาย หากแต่ก็มีไม่น้อยที่สื่อออกไปในแนวทางแบบนิทานสัตว์ หรือแม้แต่นิทานคติ ที่แม้ไม่ได้มีการรวบรัดจำกัดความให้ผู้อ่านได้เห็นในตอนท้าย หากแต่เมื่อเราอ่านหรือรับฟังแล้ว ก็อาจจะประมวลความเข้าใจเป็นข้อคิดได้โดยปริยาย
“นิทานกริมม์” ที่เรารู้จักกันนี้ มิได้เขียนขึ้นโดย “นายกริมม์” คนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นเทพนิยายที่มาจากการรวบรวม “นิทานพื้นบ้าน” ที่ปรากฏแพร่หลายอยู่ในแผ่นดินยุโรปมาเนิ่นนานนับแต่อดีตกาล ผู้รวบรวมบรรดานิทานเหล่านี้ คือ 2 พี่น้องแห่งตระกูลกริมม์ คือ ยาค็อบ ลุดวิจ คาร์ล กริมม์ (Jacob Grimm 1785 – 1863) และ วิลเฮล์ม คาร์ล กริมม์ (Wilhelm Grimm 1786 – 1859) ซึ่งได้รับการเรียกขานในนาม “พี่น้องตระกูลกริมม์”
รีวิว
ยังไม่มีรีวิว